วาติกันเผยโลโก้ปีปิติมหาการุณย์แห่งพระเมตตา

ซึ่งเราจะทำการเฉลิมฉลองกันตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2015

ไปจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016

 

         พระอัครสังฆราชซัลวาโตเร ฟีซีเกลลา ประธานสมณสภาเพื่อการประกาศพระวรสารใหม่ ให้สัมภาษณ์ที่สำนักข่าววาติกันวว่าโลโก้จะเป็นภาพพระคริสตเจ้าทรงแบกดวงวิญญาณที่หลงทางไว้บนบ่า

        พระอัครสังฆราชซัลวาโตเรกล่าวว่า “ภาพนี้ถูกออกแบบมา “เพื่อแสดงให้เห็นถึงหนทางล้ำลึกซึ่งนายชุมภาบาลที่ดีทรงสัมผัสกับมนุษย์และพระองค์ทรงกระทำไปด้วยความรักที่มีพลังอำนาจเปลี่ยนชีวิตของเราได้"  

        โลโก้พร้อมคติธรรม “ทรงเมตตาดุจพระบิดาเจ้า” (ลก. 6: 36) เป็นผลงานของคุณพ่อ มาร์โก้ รุบนิก สงฆ์คณะเยซุอิตซึ่งถือกำเนิดในปี 1954 ที่ประเทศสโลเวเนีย

         เขาวาดภาพนี้ลงบนวัสดุซึ่งเป็นวัตถุพิเศษที่พบได้แต่ในการวาดภาพในยุคโบราณและศตวรรษกลางเท่านั้น ซึ่งให้ความหมายถึงสองธรรมชาติที่อยู่ร่วมกันคือธรรมชาติพระเจ้าและธรรมชาติมนุษย์ในองค์พระเยซูคริสต์

        การเฉลิมฉลองที่ยาวนานถึงหนึ่งปียังรวมถึงวันฉลองที่เป็นเอกเทศจำเพาะอีกหลายวันด้วยกัน เช่นวันเฉลิมฉลองสำหรับคูเรียโรมัน สำหรับครูสอนคำสอน เยาวชนวัยรุ่น นักโทษ ฯลฯ ซึ่งสมณสภาเพื่อการประกาศข่าวดีใหม่จะเป็นผู้กำหนดและดำเนินวันเฉลิมฉลองพิเศษดังกล่าวในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม

        วิธีหนึ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแสดงเมตตาคือการส่ง “ธรรมทูตแห่งพระเมตตา” ออกไป โดยเฉาะอย่างยิ่งพระสงฆ์ที่ได้รับการคัดเลือกพิเศษซึ่งได้รับ “อำนาจที่จะโปรดบาปแม้เป็นบาปที่สงวนไว้สำหรับสันตะสำนักเท่านั้น” นี่คือสิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงลิขิตไว้ในเอกสารที่พระองค์ทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์

        พระอัครสังฆราชฟิซิเกลลากล่าวว่า การคัดเลือกพระสงฆ์ดังกล่าวจะอยู่บนพื้นฐานของความสามารถในการเทศน์ โดยเฉพาะเรื่องพระเมตตา และสงฆ์ผู้นั้นต้องเป็น “ผู้ฟังแก้บาปที่ดี” หมายความว่าต้องสามารถพูดถึงพระเมตตาของพระเจ้า และไม่ทำให้ที่ฟังแก้บาปเป็นเสมือน “ห้องทรมาน”

        นอกจากนี้แล้วสงฆ์ผู้นั้นต้องเป็นผู้ที่ “รู้จักอดทน” และต้องเข้าใจใน “ความอ่อนแอของมนุษย์”

        ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2016 จะมีการเฉลิมฉลองพิเศษที่เป็นเอกเทศกว่า 12 ครั้ง เช่นปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ถวายตัวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์เพื่อปิดปีชีวิตผู้ถวายตัว วันที่ 22 กุมภาพันธ์สำหรับ โรมัน คูเรียต่างๆ วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน วันฉลองพระเมตตาสำหรับผู้ที่อุทิศตนต่อชีวิตจิตแห่งพระเมตตา นอกจากนี้แล้วยังมีการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษสำหรับเยาวชนวัยรุ่น  สังฆานุกร พระสงฆ์ คนป่วย/พิการ และครูสอนคำสอน

        ปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับ “ผู้ที่ทำงานและอาสาสมัครแห่งความเมตตา”จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่ 5 กันยายน อันเป็นวันฉลองบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา และวันที่ 6 พฤศจิกายนจะเป็นวันฉลองสำหรับผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ

        พระอัครสังฆราชฟิซิเกลลากล่าวว่า สมเด็จพระสันตะปาปาทรงปรารถนาให้มีการฉลองสำหรับนักโทษในเรือนจำไม่ใช่แค่เพียงภายในเรือนจำเท่านั้น แต่อยากให้ออกมาทำการเฉลิมฉลองด้วยกันกับพระองค์ที่มหาวิหารนักบุญเปโตรด้วย  พระองค์ตรัสว่าสมณสภากำลังเจรจากับรัฐบาลถึงความเป็นไปได้ที่จะทำเช่นนี้ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่

        วาติกันขอร้องพระสังฆราชและพระสงฆ์ทั่วโลกให้มีการแสดง “สัญลักษณ์ท่าทีแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส” และวิสัยทัศน์ของพระองค์ที่จะไปให้ถึงผู้ที่อยู่ตามชายขอบสังคม

คำอธิบาย “อย่างเป็นทางการ” ของโลโก้

        เราขอเริ่มด้วยโลโก้ซึ่งแสดงถึงเทวศาสตร์ของความเมตตาและคติธรรมที่ควบคู่กัน  คติธรรม “เมตตาดุจพระบิดาเจ้า” (จากพระวรสารโดยนักบุญลูกา 6: 36) เป็นการเชื้อเชิญให้เราเอาอย่างพระเมตตาของพระบิดาผู้ทรงขอร้องเราไม่ให้พิพากษาหรือประณามผู้อื่น แต่ให้อภัยและมอบความรักแก่เขาโดยไม่มีขอบเขต  โลโก้นี้เป็นผลงานการออกแบบของคุณพ่อมาร์โก รุบนิก เอส เจ  อันเป็นภาพลักษณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพระศาสนจักรยุคแรก นั่นคือ พระบุตรทรงแบกดวงวิญญาณที่หลงทางไว้บนบ่า ซึ่งแสดงว่าเป็นความรักของพระเยซูคริสต์เองที่ทรงทำให้ธรรมล้ำลึกแห่งการประสูติของพระองค์สำเร็จบริบูรณ์ด้วยการไถ่กู้ซึ่งช่วยเราให้ได้รอด  โลโก้ถูกออกแบบมาในทำนองที่แสดงถึงความล้ำลึกที่นายชุมภาบาลที่ดีทรงสัมผัสกับมนุษย์ และทรงกระทำด้วยความรักซึ่งพลังอำนาจแห่งความรักนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้  สิ่งน่าคิดพิเศษจุดหนึ่งคือ ในขณะที่นายชุมภาบาลที่ดี ในพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ทรงยินยอมเสด็จมารับสภาพมนุษย์ สายพระเนตรของพระองค์ทรงผนึกเป็นหนึ่งเดียวกับสายตามนุษย์  พระคริสตเจ้าทรงมองเห็นด้วยสายตาของอาดัม และอาดัมก็มองเห็นด้วยสายพระเนตรของพระคริสตเจ้า  ทุกคนพบอาดัมคนใหม่ในพระเยซูคริสตเจ้า ความเป็นมนุษย์และอนาคตของพวกเขารออยู่ข้างหน้าในพระองค์  ภาพลักษณ์นี้ถูกบรรจงวาดลงบนวัสดุพิเศษซึ่งเป็นวัสดุโบราณและศตวรรษกลางที่ใช้วาดภาพไอคอน ซึ่งหมายถึงการอยู่ร่วมกันของสองธรรมชาติ คือธรรมชาติพระเจ้าและธรรมชาติมนุษย์ในองค์พระคริสตเจ้า  วางกลมสามวงที่ซ้อนกันซึ่งมีสีที่ค่อยๆจางลงจากวงในออกไปหมายถึงการเคลื่อนไหวของพระคริสตเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์จากความมืดแห่งบาปและความตาย  ความดำมืดของสีหมายถึงการที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ถึงความรักของพระบิดาเจ้าผู้ทรงโปรดประทานอภัยให้กับทุกคน

 

วิษณุ ธัญญอนันต์  สรุปจากสำนักข่าววาติกัน

Tagged Under